หอมนวลนาง - นิยาย หอมนวลนาง : Dek-D.com - Writer
×

    หอมนวลนาง

    ชมพูพิงค์ ลูกหลานเชื้อสายเจ้าเมืองเหนือรุ่นสุดท้ายเผลอไปเจอกับปิ่นแก้วที่แม่แอบซ่อนไว้ ทำให้เธอย้อนอดีตไปในนามของ เอื้องแก้ว "ต้องทำตัวเนียนๆเข้าไว้ แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนจับได้ซะแล้วซิ..."

    ผู้เข้าชมรวม

    1,105

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    19

    ผู้เข้าชมรวม


    1.1K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    20
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 ก.ย. 62 / 10:39 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                   




       "ข้าเจ้าเป็นสาวเจียงใหม่...แฮมบ่เต้าใดก็จะเป็นสาวแล้ว..."
        "นั่นเพลงกระไรกัน? ฟังประหลาดหู"
        "ฟังๆไปเถอะค่ะ...อย่ามาถามข้าเจ้าเลย เพราะข้าเจ้าเองก็ไม่รู้ ร้องตามเขามาทั้งนั้นแหละ..."
         "เขาน่ะ...ผู้ใด?"





       “ไอ้พู เดี๋ยวนี้มึงเป็นอะไรวะ? เรียบร้อยขึ้นแปลกๆ กูนึกว่าผีสิงแหนะ...”
       “พูดมึงกู ไม่สุภาพเอาเสียเลยนะ...ข้าเจ้าเป็นแม่หญิง หัดพูดถนอมน้ำใจหน่อยสิ...”
        “เอ้า!”




        ชมพูพิงค์ หรือที่คนในคณะรู้จักฉันว่า

       นางสาวลักษณ์นารา  วงศ์เมืองเหนือ

       ถ้าคนที่เดาเก่งๆ ก็จะรู้ได้ทันทีเลยค่ะว่าพื้นเพฉันเป็นคนที่ไหน...


        ฉันเป็นลูกหลานเชื้อสายรุ่นสุดท้ายของเจ้าเมืองเหนือ พ่อกับแม่ฉันบอกเอาไว้อย่างนั้น ถึงแม้จะเป็นลูกหลานเมืองเหนือก็จริง แต่ฉันไม่เคยไปภาคเหนือ และพูดภาษาเหนือไม่ได้เลยด้วยซ้ำ พ่อและแม่พาฉันมาอยู่กรุงเทพตั้งแต่อายุได้ห้าวัน เติบและโตมาด้วยความอบอุ่นที่ปนไปด้วยความหนักใจเล็กน้อยของครอบครัวเพราะความซุกซนของตัวเอง

       แต่ว่าวันหนึ่ง พ่อและแม่ของฉันประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตไปอย่างกระทันหัน ฉันกลายเป็นเด็กกำพร้าในทันทีที่รู้ข่าว ตอนนั้นฉันเคว้งคว้าง เงียบเหงาและไร้ที่พึ่ง เกือบจะลาออกจากโรงเรียนในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ทุกคนพยายามรั้งไว้ให้สู้ต่อ หนึ่งในนั้นคือไอ้ถั่วพู เพื่อนสนิทที่สุดของฉัน หรือชื่อเล่นจริงๆของมันคือไอ้ศึก และชื่อจริงคือ ขุนศึก  เกียรติก้องไกล มันบอกว่าถ้าฉันจะลาออก มันก็จะออกด้วย ฉันรับผิดชอบมันไม่ไหว จึงอดทนและต่อสู้กับปัญหาต่างๆที่ถาโถมเข้ามา จนในที่สุดก็ผ่านมันมาได้ด้วยดี

       ฉันได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นด้านศิลปะที่สุดในไทยพร้อมกับไอ้พู ในคณะมัณฑนศิลป์​ด้วยกัน ทั้งๆที่จริงๆแล้วฉันอยากเข้าวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางมากกว่า เพราะมีความฝันว่าอยากทำธุรกิจแบรนด์น้ำหอมเป็นของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่าฉันเรียนเก่งและโดดเด่นที่สุดในคณะ จึงได้เป็นทั้งพี่สันทนาการและคณะกรรมการสภาคณะ พร้อมทั้งถูกชักชวนให้ไปเป็นหลีดในงานกีฬาสีมหาวิทยาลัย

       ฉันปฏิเสธไป...ด้วยโรคประจำตัวที่เป็นมาตั้งแต่เกิด


       “แค่กๆ”
       “เอ้า...นี่ยา...มึงนี่จริงๆเลยไอ้พู รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นหอบ ยังอยากจะวิ่งออกกำลังกายกับกูอีก”
       “แหมมึง...คนเป็นหอบก็อยากสุขภาพดีบ้างนี่หว่า ”


       ชื่อเล่นของพวกเราเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงสับสนบางเวลาที่มีคนเรียกชื่อ

       “พู...”
       “พูไหน?!”


       นั่นแหละ...ชีวิตแต่ละวันของพวกเรา มันก็ปกติดี และคงจะเป็นอย่างนี้ต่อไป ถ้าเกิดวันหนึ่งฉันไม่ไปเผลอหยิบปิ่นแก้วนั้นที่แม่ซ่อนไว้ใต้ห้องเก็บของ มันเปลี่ยนโลกฉันไปราวกับนิยายหรือละครที่เคยดู แต่คราวนี้มันแปลกไป เพราะมันเกิดขึ้นจริงๆ...กับตัวฉันเอง


       “น้องเอื้องแก้ว...เจ้าเป๋นยะหยัง? อยู่ดีๆกะล้มฟุบไป๋?”
       “หา?...ใครคือเอื้องแก้ว? บ้าเหรอ? ล้อเล่นปะ? ”
       “ล้อเล่นจะได๋?...เมื้อกี้กะเห็นอยู่กับตา...น้องล้มไป๋แต๊ๆหนา”


       จะล้มอีกรอบแล้วน่ะสิ  พาฉันกลับปัจจุบันเดี๋ยวนี้!!!

        
    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น